รวมพิธีกรรมการจัดงานศพแบบแปลก ๆ ที่มีอยู่จริงในโลก!

เชื่อหรือไม่ว่างานศพที่เราอาจจะพบเห็นได้โดยปกติทั่วไปตามวัดวาอารามหรือสถานประกอบพิธีทางศาสนามักจะทำการบรรจุร่างของผู้เสียชีวิตเอาไว้ในโลง และประดับตกแต่งบริเวณภายในงานด้วยพวงหรีดและดอกไม้มากมายนั้นเป็นเพียงหนึ่งในพิธีการจัดงานศพที่นิยมกันในหลายพื้นที่เท่านั้น แต่ความเป็นจริงบนโลกที่กว้างใหญ่ของเรามีวิธีการจัดงานศพแบบแปลกๆ อีกมากมายที่ทุกคนอาจจะไม่เคยจินตนาการถึงอยู่อีกนับไม่ถ้วน ดังนั้นในบทความนี้เราจะพามาดูกันว่านอกจากการจัดงานศพแบบที่เราเห็นกันทั่วไปยังมีการจัดงานศพแบบไหนอีกบ้างตามความเชื่อต่าง ๆ ทั่วโลก

ภาพจาก bbc thai www.bbc.com/thai/international-40768432

พิธีเต้นแห่ศพในประเทศกานา

เรียกได้ว่า ‘การเต้นแบกโลง’ เคยเป็นกระแสโด่งดังมากในประเทศไทยเนื่องจากสังคมของเรามักจะมีความคิดที่ว่างานศพจะต้องเป็นบรรยากาศของความเศร้าโศกและสำรวม หากแต่ในประเทศกานาจะมีประเพณีการแห่งานศพที่ทั้งแปลกใหม่และทำให้ภาพของงานศพในความคิดของหลายคนเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง เนื่องจากคนที่นี่จะมีการเต้นประกอบจังหวะในขณะที่ชายสี่คนทำการแบกโลงของผู้ตายเอาไว้พร้อมกับโยกโลงให้เข้ากับจังหวะอย่างรื่นเริง และบริการทำศพในรูปนี้ก็ได้รับความนิยมไปอย่างกว้างขวางเพราะมีคนจำนวนไม่น้อยที่รู้สึกว่าการเต้นแบบนี้ทำให้ทุกคนในงานรู้สึกผ่อนคลายและส่งผู้ตายในวาระสุดท้ายได้อย่างมีความสุข

คณะเต้นรำหามหีบศพ https://www.bbc.com/thai/international-40768432

ถ่ายรูปกับศพบรรพบุรุษ

พิธีกรรมสุดแปลกที่อาจจะดูน่าเหลือเชื่อและค่อนข้างสร้างความไม่เข้าใจให้กับคนทั่วไป แต่สำหรับหมู่บ้านบนเกาะแห่งหนึ่งในประเทศอินโดนีเซียกลับทำตามธรรมเนียมนี้กันมาอย่างยาวนาน โดยพิธีกรรมนี้จะเรียกว่า ‘มาเนเน’ ที่เหล่าลูกหลานจะทำการนำศพของบรรพบุรุษออกมาชำระล้างทำความสะอาดและสวมใส่เครื่องแต่งกายให้กับร่างไร้วิญญาณเหล่านั้น ไม่ว่าจะด้วยชุดประจำชาติหรือเสื้อผ้าสีสันสวยงามตามความชื่นชอบของผู้ตายก็ได้ ตามด้วยการนำเครื่องเซ่นมาทำการกราบไหว้บูชาและถ่ายภาพเป็นความทรงจำเก็บไว้เสมือนว่าบรรพบุรุษที่ได้จากโลกนี้ไปนานแล้วยังคงอยู่กับพวกเขาเสมอนั่นเอง

ขบวนดนตรี Jazz funeral

อีกหนึ่งการจัดงานศพที่อาจจะแปลกตาไปบ้างสำหรับคนไทย แต่กลับเป็นภาพที่เห็นกันชนชินตาของคนบางกลุ่ม เพราะที่รัฐหนึ่งในประเทศอเมริกามีการจัดขบวนดนตรีอย่างยิ่งใหญ่ซึ่งเปิดให้ผู้คนที่มาร่วมงานได้เข้ามาร่วมสนุกกับความครื้นเครงนี้ได้อย่างเต็มที่ โดยความรู้สึกสนุกเหล่านี้นี่เองที่เป็นเสมือนการสดุดีให้กับคุณงามความดีของผู้ตาย และใช้รอยยิ้มส่งวิญญาณของคนเหล่านั้นให้ได้มีความสุขตลอดไปหลังจากชีวิตในโลกนี้สิ้นสุดลงไปแล้ว ซึ่งในปัจจุบันก็อาจจะเห็นได้ว่าเริ่มมีผู้ที่สนใจอยากจะสร้างบรรยากาศที่สนุกสนานให้กับงานศพมากขึ้นเพื่อทำให้ผู้ที่จากไปหมดห่วงและเป็นการปลอบประโลมผู้ที่สูญเสียได้ดีด้วยนั่นเอง

ข้อมูลเพิ่มเติม en.wikipedia.org/wiki/Jazz_funeral

พิธีตจอผลี่ของชาวม้ง

สำหรับพิธีการจัดงานศพที่มีชื่อว่า ‘พิธีตุจอผล’ นี้เป็นธรรมเนียมการปฏิบัติของชาวม้ง โดยเมื่อมีผู้เสียชีวิตชาวบ้านจะทำการตั้งศพไว้ที่บริเวณแคร่ซึ่งอยู่ในบ้านและจะไม่นิยมนำศพบรรจุใส่โลงปิดฝาอย่างที่เราเห็นได้ทั่วไป ถึงแม้จะมีการวางศพไว้อย่างนั้นแต่ชาวม้งกลับไม่ได้รู้สึกหวาดกลัวหรือรังเกียจเลยแม้แต่น้อย เมื่อผู้จัดงานสามารถหาวันมงคลในการนำศพไปฝังได้แล้วจึงจะทำการเคลื่อนย้ายไปยังหลุมฝังต่อไป จากนั้นเมื่อครบ 13 วันจะมีพิธีกรรมอื่น ๆ ก่อนที่ชาวบ้านจะทำการเชิญวิญญาณผู้ตายให้มารับเครื่องเซ่นไหว้ด้วยการทำพิธีตจอผลี่ซึ่งลักษณะของพิธีก็คือการบรรเลงดนตรีพื้นเมืองของชาวม้งอย่างกลองและเค่ง เป็นต้น

openbase.in.th/node/753

พิธีทำศพของชาวมอญ

สำหรับชาวมอญจะมีความเชื่อในเรื่องจัดการทำพิธีศพโดยพิจารณาจากสาเหตุการตายเป็นหลักซึ่งจะมีขั้นตอนที่แตกต่างกันเล็กน้อย โดยแบ่งรูปแบบการตายออกเป็น 2 แบบก็คือการตายแบบปกติ เช่น ป่วย, การตายจากวัยแก่ชราเป็นต้น กับอีกรูปแบบหนึ่งก็คือการตายแบบไม่ปกติซึ่งก็คือการตายแบบที่ไม่ทันได้ตั้งตัวหรือไม่เต็มใจที่จะตาย เช่น การประสบอุบัติเหตุ, การถูกฆาตกรรมเป็นต้น โดยชาวมอญจะไม่นิยมจัดพิธีหรือเผาศพของผู้ที่ตายแบบไม่ปกติแต่จะทำการรีบฝังเอาไว้ก่อนด้วยความเชื่อที่เรียกกันว่า ‘ตายโหงไม่ควรเผา’ เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมจึงจะทำการเชิญศพออกมาเพื่อจัดพิธีอีกครั้งในภายหลัง

ภาพพิธีงานศพไทย

พิธีขั้นตอนงานศพไทย

งานศพแบบ Drive-Thru

How to มูฟออนกับการจากไป ใช้ชีวิตอย่างไรให้ใจไม่เสียศูนย์

นอกจากพิธีกรรมเหล่านี้ที่เราได้มีการหยิบยกนำมาเพื่อเป็นความรู้ให้กับทุกคนเป็นเพียงพิธีกรรมส่วนหนึ่งที่พบเห็นได้เท่านั้น เพราะโลกเรากว้างใหญ่ไพศาลส่งผลให้คนในแต่ละพื้นที่ต่างก็มีความเชื่อและวิถีชีวิตในการดำรงชีพที่แตกต่างกันออกไปทั้งยังมีความหลากหลายจนไม่อาจจะจินตนาการได้หมด แต่สุดท้ายแล้วไม่ว่าพิธีกรรมในการจัดงานศพเหล่านั้นจะมีวิธีการที่เหมือนหรือแตกต่างกันมากแค่ไหน จุดประสงค์สำคัญต่างก็ทำขึ้นเพื่อสร้างความสุขและไว้อาลัยให้กับผู้ที่จากไปด้วยจิตใจที่บริสุทธิ์ที่สุดนั่นเอง